ใบแปะก๊วย (Ginkgo Biloba) มีสารอาหารที่จำเป็นใดต่อร่างกายบ้าง
สำหรับผู้ที่เริ่มต้นสนใจในพืชสมุนไพรธรรมชาติที่มีประโยชน์คงจะคุ้นกับชื่อของ ใบแปะก๊วย กันอยู่บ้าง เพราะใบแปะก๊วยนั้นถือเป็นสมุนไพรจากประเทศจีน ที่มีประวัติเก่าแก่ยาวนาน โดยในสมัยโบราณสมุนไพรชนิดนี้ ได้ถูกนำมาใช้เป็นยาในการบรรเทาอาการจากโรคต่าง ๆ มากมาย เช่นเดียวกับในปัจจุบัน พืชสมุนไพรชนิดนี้ก็ยังคงมีประโยชน์มหาศาล และถูกนำมาสกัดเป็นยา เพื่อใช้บำรุงร่างกาย และรักษาอาการจากโรคต่าง ๆ มากมาย
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีการทำ สารสกัดจากใบแปะก๊วยก็เพราะ ช่วยให้ง่ายต่อการรับประทาน แถมยังสามารถหามารับประทานได้สะดวกอีกด้วย โดยสรรพคุณที่เรียกว่าขึ้นชื่อจากการทานสารสกัดจากใบแปะก๊วยนั้นได้แก่ ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคอัลไซเมอร์ บรรเทาอาการหอบหืด อาการไอ บำรุงสมอง แถมยังช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวล ปรับอารมณ์ให้อยู่ในสภาวะที่ดีอีกด้วย ทั้งหมดนี้ ไม่ได้มาจากการแปรรูปเป็นสารสกัดเท่านั้น แต่เป็นเพราะสารอาหารที่มีอยู่ใน ใบแปะก๊วยนั้นมีอยู่มากมาย แถมแต่ละชนิดก็ยังเป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นกับร่างกายอีกด้วย โดยสารอาหารที่มีอยู่ในใบแปะก๊วยนั่น ได้แก่
1. สารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มฟลาโวนอยยด์ และกลุ่มเทอร์พีนแลคโตน
สารอาหารในกลุ่มนี้จะมีประโยชน์กับเรื่องของเซลล์ประสาทและเซลล์สมองมากเป็นพิเศษ ซึ่งก็เป็นที่มาของการช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม และอัลไซเมอร์นั่นเอง
2. วิตามิน บี 1
สำหรับวิตามินบี 1 นั้นเป็นสารอาหารที่มีคุณสมบัติในการช่วยลดอาการเมื่อยล้า บรรเทาความเครียดจากโรคซึมเศร้า ช่วยให้นอนหลับได้ง่าย และลดอาการทางประสาทในผู้ที่ใช้ยาเสพติดได้อีกด้วย
3. วิตามิน บี 6
ช่วยสร้างความสมดุลให้กับร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการของการสร้างกรดอะมิโน การสร้างฮอร์โมน รวมทั้งสารที่ช่วยในสื่อของระบบประสาท ทำให้การตอบสนองที่สั่งการจากสมองเป็นไปโดยปกติ ไม่มีอาการติดขัดเกิดขึ้น ซึ่งก็เป็นส่วนเสริมที่ช่วยลดความเครียด และวิตกกังวลได้เช่นเดียวกัน
4. วิตามิน บี 12
มีสรรพคุณโดยตรงในการช่วยทางด้านระบบการเผาผลาญพลังงานของเซลล์ ช่วยเข้าไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์ประสาท และทำให้สมองมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้น
ทั้งหมดนี้ก็เป็นสรรพคุณ และสารอาหารที่เรียกได้ว่ามีประโยชน์กับร่างกายของคนเรามากมาย ซึ่งจะหาได้จากการรับประทานใบแปะก๊วย หรือสารสกัดจากใบแปะก๊วย โดยการรับประทานนั้นก็ต้องอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม และต้องให้เวลากับการออกกำลังกาย รวมทั้งพักผ่อนให้เพียงพอ พร้อมกับรับประทานอาหารชนิดอื่นควบคู่กันไปด้วย เพียงเท่านี้ก็จะได้สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ครบในทุก ๆ ด้านอย่างแท้จริง
Share this Article