โสม (Ginseng) ราชาสมุนไพรเพื่อคนวัยทำงาน

        ขึ้นชื่อว่าราชาสมุนไพร คุณประโยชน์จากโสม ย่อมไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน โดยเจ้ารากไม้ทรงคุณค่าชนิดนี้ ได้ถูกจัดให้เป็นจำพวกยาอายุวัฒนะ ที่มีส่วนช่วยโดยตรงเพื่อการฟื้นฟูร่างกาย และช่วยให้ร่างกายที่อ่อนแอเหนื่อยล้า กลับมามีพละกำลังอีกครั้ง จึงไม่แปลกที่กลุ่มผู้บริโภคส่วนใหญ่ของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสมุนไพรโสมนั้น จะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุซะส่วนใหญ่ เป็นวัย ที่มักประสบปัญหาสุขภาพและโรคร้ายมากมาย แต่อย่าลืมว่าปัญหาสุขภาพนั้น เป็นภัยเงียบที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย ไม่เว้นแม้แต่วัยรุ่นหนุ่มสาวในวัยทำงาน ดังนั้นการใช้สารสกัดจากโสมเพื่อเป็นช่วยร่างกายต่อสู่กับความเสี่ยงโรคร้าย จึงนับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

        วัยทำงาน คือ วัยที่ต้องใช้ทั้งพลังกายและพลังใจเป็นอย่างมาก เรียกว่าต้องเจอกับความเครียดจากที่ทำงานและต้องออกไปเจอกับมลพิษภายนอกอยู่ตลอดเวลาอีก ต่อให้เป็นวัยที่แข็งแรงมากแค่ไหน แต่ถ้าโหมงานหนักมากเกินไปโดยไม่ใส่ใจสุขภาพเลย คุณ! ก็อาจป่วยได้ จนถึงขั้นเป็นโรคร้ายแรงก่อนวัยอันควรได้เช่นกัน เรามาดูกันว่า มีสารสำคัญตัวใดในสารสกัดโสมบ้าง ที่มีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพในคนวัยทำงาน

        โดย Ginsenosides จะช่วยเสริมการทำงานของสารสื่อประสาทในสมอง เซลล์ประสาททำงานได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ หากงานที่ทำอยู่ คืองานที่ต้องใช้ความคิดและการตัดสินใจอยู่ตลอดเวลา แน่นอนว่าสมองต้องมีเหนื่อยล้าบ้าง และถ้าหากหักโหมมากไปก็อาจทำให้เกิดความเครียดตามมา สรรพคุณในการช่วยระบบการทำงานของสมองนี้ จึงถือเหมาะสมกับวัยทำงานเป็นอย่างยิ่ง คราวนี้ไม่ว่าจะต้องใช้ความคิดหนักแค่ไหน สมองของคุณก็จะตื่นตัวพร้อมรับข้อมูลใหม่ ๆ เสมอ

        แน่นอนว่าความเครียดจากงาน เป็นสิ่งที่ต้องมาคู่กับภาระงานอันหนักหน่วง และเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เสียด้วย แล้วเราจะต่อสู้กับความเครียดอย่างไร แน่นนอนว่าการปรับทัศคติให้มองโลกในแง่ดีด้วยตัวเองยังเป็นสิ่งจำเป็น แต่จะดีแค่ใหนถ้าเราได้ใช้ตัวช่วยอย่างสาร Adaptogens ในสารสกัดโสม มาเป็นตัวช่วยอีกแรง โดยสารนี้จะช่วยร่างกายให้ผ่อนคลาย จิตใจคงที่ เป็นการลดภาวะโรคซึมเศร้าที่อาจเกิดขึ้นจากความเครียดสะสมในอนาคตได้

        แม้การขยันทำงานอย่างเต็มที่เต็มกำลังจะเป็นเรื่องที่ดี แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบของคน แต่คุณ คงไม่อยากเป็นคนที่ทุ่มเททั้งชีวิตเพื่องาน แต่สุดท้ายก็ต้องนำเงินที่หามาได้ทั้งหมดไปกับการรักษาตัวเนื่องด้วยอาการป่วยจากการทำงานหรอก เพราะมันไม่ต่างอะไรกับการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำเลย การใช้ชีวิตอย่างมีสติ และรู้จักลิมิตของตัวเองต่างหาก คือหนทางที่ดีที่สุด