แครนเบอร์รี่ (Cranberry) ผลไม้เพื่อสุขภาพหัวใจที่แข็งแรง
สุขภาพหัวใจเป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ การดูแลสุขภาพหัวใจไม่ดีอาจนำมาสู้โรคร้ายต่างๆได้ สาเหตุเบื้องต้นของอาการทางหัวใจเหล่านี้มักมาจากเกิดจากความเสื่อมของผนังหลอดเลือดหัวใจที่มีคราบไขมันมาเกาะสะสมเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ คล้ายกับการมีตะกรันอุดตันท่อน้ำ นำไปสู่อาการหลอดเลือดตีบมากขึ้น เมื่อหลอดเลือดถูกอุดตันมากขึ้น หัวใจจึงต้องทำงานหนักขึ้น บีบตัวแรงขึ้นเพื่อส่งเลือดไปยังส่วนต่างทั้งร่างกาย นำมาสู่การเกิดโรคความดันโลหิตสูง เมื่อคราบไขมันนี้แตกทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันเฉียบพลัน หากไม่ได้รับการดูแลจะนำไปสู่อาการหัวใจวายได้ในที่สุด แครนเบอร์รี่เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่สามารถช่วยดูแลสุขภาพหัวใจของคุณได้
แครนเบอร์รี่ (Cranberry) ถือเป็นสุดยอดผลไม้บำรุงสุขภาพยอดฮิตแห่งยุคนี้ แครนเบอร์รี่ผลไม้เมืองหนาวขนาดเล็กนี้อุดมไปด้วยใยอาหาร วิตามินซี และสารอาหารที่สำคัญอีกมากมาย ถูกค้นพบแล้วว่ามีประสิทธิภาพต่อการบำรุงหัวใจ แม้ก่อนหน้านี้จะมีข้อมูลมากมายที่เราเคยรับรู้กันมาว่าผลไม้นี้มีประโยชน์มากเพียงใด การศึกษาวิจัยล่าสุดปิดเผยแล้วว่านอกจากสรรพคุณต่างๆที่รับรู้กันมาแล้วนั้น แครนเบอร์รี่ (Cranberry) ยังส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจที่แข็งแรงอีกด้วย นักวิทยาศาสตร์ศึกษาว่า แครนเบอร์รี่มีสารอาหารหลายชนิด แต่สารอาหารที่มีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของหัวใจมนุษย์คือ สารกลุ่มโพลีฟีนอล (Polyphenol) และ สารแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) ซึ่งเป็นสารที่มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ และ สามารถช่วยให้ขยายหลอดเลือดหัวใจที่เคยตีบ เมื่อหลอดเลือดที่เคยตีบขยายขึ้น ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจและส่วนต่างๆของร่างกายได้ดียิ่งขึ้น ลดภาระในการทำงานของหัวใจ หัวใจจึงไม่ต้องทำงานบีบตัวหนักมาก เมื่อหัวใจทำงานไม่หนักมากสุขภาพของหัวใจก็ดีขึ้น แข็งแรง โดยพบว่าน้ำผลไม้จากแครนเบอร์รี่ประมาณ 450 มิลลิลิตร หรือประมาณ 2 แก้ว มีสารโพลีฟีนอล (Polyphenol) โดยเฉลี่ย 175-185 มิลลิกรัม มีฤทธิ์ในการขยายหลอดเลือดในร่างกาย ช่วยลดความดันโลหิต ลดภาระการทำงานของหัวใจ นอกจากนี้ในน้ำแครนเบอร์รี่ยังมีวิตามินซีจำนวนมาก และมีธาตุโพแทสเซียมที่มีผลดีต่อการทำงานของหัวใจอีกด้วย
แครนเบอร์รี่จึงเป็นผลไม้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสารอาหาร เป็นแหล่งใยอาหาร และแร่ธาตุวิตามินที่หลากหลาย ส่งผลดีต่อร่างกายโดยรวมและช่วยให้หัวใจทำงานได้ดี เหมาะกับผู้ที่มีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ เช่น ผู้ที่ทำงานหนัก มีความเครียด น้ำหนักเกิน และไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย
Share this Article