เปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะ แคลเซียม (Calcium) ไม่ได้มีดีแค่เรื่องกระดูก

        ทุก ๆ คนรับรู้กันมาตั้งแต่เด็กว่าหากต้องการให้กระดูกแข็งแรงต้องทานอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียมเยอะ ๆ โดยเฉพาะนม ทว่าจริง ๆ แล้วนอกจากแคลเซียมจะเข้าไปช่วยดูแลในเรื่องกระดูกและฟันให้มีความแข็งแรงสารอาหารชนิดนี้ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายในด้านอื่น ๆ อีกมากทีเดียว บางคนอาจยังเข้าใจผิดว่าเมื่อรู้สึกกระดูกแข็งแรงอยู่แล้วคงไม่ต้องทานแคลเซียมเยอะ ๆ นั่นคือเรื่องที่คิดผิดถนัดมาก ๆ เพราะแคลเซียมยังมีส่วนช่วงร่างกายอีกหลายด้าน

        มีงานวิจัยจากวารสาร Clinical Nutrition ระบุออกมาว่าการทานแคลเซียมกับวิตามินดีเป็นประจำจะช่วยลดการต่อต้านของอินซูลิน ทำให้ความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคเบาหวานลดลงอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะผู้หญิงที่ป่วยเป็นโรคถุงน้ำในรังไข่ซึ่งมีโอกาสสูงในการเกิดโรคเบาหวาน หากทานสารอาหารทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นประจำจะดีต่อร่างกายมาก ๆ

        การทานแคลเซียมคู่กับวิตามินดีเป็นประจำเห็นผลชัดเจนว่าช่วยลดระดับไตรกลีเซอร์ไรต์ได้เป็นอย่างดี ไตรกลีเซอร์ไรต์คือไขมันประเภทหนึ่งที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นมาภายในร่างกายของเรา โดยเฉพาะคนที่ชอบทานอาหารประเภททอด, ผัด หรืออาหารที่อุดมไปด้วยไขมัน หากมีสารตัวนี้ในร่างกายเยอะเกินไปจะเพิ่มความเสี่ยงในการป่วยโรคหลอดเลือดในสมองได้

        มีงานวิจัยของประเทศญี่ปุ่นซึ่งถูกตีพิมพ์เอาไว้ใน Journal of Cardiac Failure ระบุว่าการที่ร่างกายคนเรามีปริมาณแคลเซียมน้อยเกินไปจะเพิ่มโอกาสให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้ง่ายกว่าคนที่มีปริมาณแคลเซียมในร่างกายปกติ

        การทานแคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสมและทานมาโดยตลอด แคลเซียมจะเข้าไปช่วยป้องกันการแบ่งเซลล์แบบผิดปกติให้ลดลง โอกาสจะทำให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ก็น้อยตามไปด้วย แต่ทั้งนี้เรื่องของอาหารที่ท่านก็สำคัญเช่นกันกับการเลี่ยงโรคมะเร็ง

        อีกหน้าที่ของแคลเซียมซึ่งหลายคนไม่รู้คือการกระตุ้นกล้ามเนื้อให้เกิดการบีบตัวเป็นปกติ เมื่อกล้ามเนื้อบีบตัวธรรมดาหลอดเลือดหัวใจก็ทำงานได้ตามปกติ ความดันโลหิตก็จะไม่ขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่เสี่ยงต่ออาการวูบหรือเส้นเลือดในสมองแตก

        จากประโยชน์ต่าง ๆ ของแคลเซียมนี้คงทำให้ได้ปรับความคิดกันใหม่ว่าจริง ๆ แล้วสารอาหารประเภทนี้ไม่ได้มีดีแค่เรื่องของกระดูกและฟันเท่านั้น ทว่ายังช่วยให้สุขภาพร่างกายในด้านต่าง ๆ สมบูรณ์ แข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิมด้วย ใครที่ไม่ค่อยทานลองเปลี่ยนแนวคิดของตนเองใหม่วันนี้ยังไม่สายเกินไป