ห่างไกลจากโรคหัวใจได้มากขึ้นด้วยแครนเบอร์รี่ (Cranberry)
โรคหัวใจนั้นเป็นอีกหนึ่งโรคที่คร่าชีวิตคนไทยไปมากทีเดียวซึ่งนั้นก็เริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อครั้งอดีตจวบจนปัจจุบันโรคหัวใจก็ยังคงเป็นโรคที่หาทางรักษาและป้องกันได้ยาก อย่างที่เราจะเห็นกันว่ามีหลายคนที่เสียชีวิตจากโรคหัวใจล้มเหลวหรือหัวใจวายกันมากมาย โดยที่มันสามารถเกิดได้กับทุกเพศและทุกวัย ซึ่งการป้องกันให้ตัวเองอยู่ห่างไกลจากโรคหัวใจนั้นดูจะเป็นเรื่องยากทีเดียว แต่ก็มีผลงานการวิจัยออกมาว่า เราสามารถที่จะรับประทานอาหารที่มีคุณค่าเพื่อให้ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจได้
โดยหนึ่งในอาหารที่มีคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมในการต้านและลดความเสี่ยงของโรคหัวใจได้ก็คือ แครนเบอร์รี่ ผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ที่หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นหูนัก แครนเบอร์รี่นั้นเป็นผลไม้รสเปรี้ยวที่มีขนาดเล็กแต่กลับอุดมไปด้วยแหล่งอาหารชั้นเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น วิตามินซี, เบตาแคโรทีน, วิตามินเอ และยังมีสารอาหารในกลุ่มเกลือแร่อีกมากมาย และเจ้าสารอาหารมากมายนี่เองที่มีความสามารถในการต้านทานโรคมากมายไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง, โรคหัวใจ หรือแม้แต่อาการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะได้ ซึ่งสาเหตุหลักของการเกิดโรคหัวใจนั้นก็มาจากการที่ร่างกายของคนเรามีสารอย่างอนุมูลอิสระที่คอยยับยั้งการเจริญเติบโตและคอยทำลายการทำงานของเซลล์ในร่างกาย นั้นก็รวมไปถึงเรื่องของอาการโรคหัวใจที่มีผลมาจากอนุมูลอิสระคอยยับยั้งการทำงานของเซลล์ และสิ่งหนึ่งที่เป็นปัจจัยของการเกิดโรคหัวใจก็เพราะหลอดเลือดนั้นทำงานผิดปกติเพราะปริมาณคอเลสเตอรอลไปเกาะตามผนังของหลอดเลือดนั้นเอง
อย่างไรก็ตามการรับประทานแครนเบอร์รี่อยู่เป็นประจำนั้นจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ ซึ่งสรรพคุณของสารอาหารเหล่านั้นก็คือ ช่วยยับยั้งการทำงานของอนุมูลอิสระ รวมทั้งยังกำจัดและป้องกันการทำงานของอนุมูลอิสระไม่ให้มีประสิทธิภาพขึ้นด้วย และหากจะให้เกิดประโยชน์ในแง่ของการป้องกันหรือรักษาโรคนั้น ก็ต้องรับประทานอยู่เป็นประจำและต่อเนื่อง ซึ่งในเรื่องของการรับประทานแครนเบอร์รี่ให้เกิดประโยชน์นั้นก็ควรจะรับประทานในปริมาณที่เพียงพอในแต่ละวันไม่มากจนเกินไป เพราะบางคนเมื่อเห็นว่าแครนเบอร์รี่มีประโยชน์ ก็หาซื้อมารับประทานเป็นจำนวนมากๆ ซึ่งนั้นอาจจะกลายเป็นผลเสียกับร่างกายมากกว่าผลดีได้ ฉะนั้นแล้วรับประทานอย่างเหมาะสมและอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ ที่สำคัญคือต้องไม่ลืมที่จะออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพราะการดูแลสุขภาพที่ดีนั้นไม่เพียงแค่การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพียงอย่างเดียว แต่ต้องมาจากการออกกำลังกายเพิ่มเติมด้วย
Share this Article
