ป้องกันแสงแดดได้ถูกจุด ด้วยไลโคพีน (Lycopene)
ในปัจจุบัน เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าแสงแดดเป็นตัวการร้ายทำลายเซลล์ผิวให้เสื่อมสภาพ ทำให้ระบบเเซลล์ผิวหนังทำงานผิดปกติ ก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับโรคผิวหนังตามมา เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือแม้แต่โอกาสเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังจากการถูกรบกวนจากคลื่นแสงแดด แต่เราก็สามารถปกป้องผิวจากแสงแดดได้ง่ายๆ ด้วยการรับประทานอาหารที่มีสารไลโคพีน (lycopene) เป็นส่วนประกอบนั่นเอง
จากหลักฐานการค้นคว้างานวิจัยต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ล้วนมีความเห็นสอดคล้องกันว่า สารไลโคพีนเป็นสารออกฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพ เป็นสารที่อยู่ในกลุ่มแคโรทีนอยด์ ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันและซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังจากการถูกทำร้ายจากรังสียูวีชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรังสียูวีเอ (UVA) ซึ่งเป็นต้นเหตุของการทำร้ายเซลล์ผิวชั้นไขมันที่ก่อให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น หรือรังสียูวีบี (UVB) ที่เป็นต้นเหตุของการทำลายเซลล์ผิวชั้นกำพร้า สาเหตุหลักของผิวไหม้เกรียม การเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำ โดยพบว่าสารไลโคพีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดสูงกว่าเบต้า-แคโรทีน ถึง 2 เท่า ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยลดความแก่ชรา ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง ผิวพรรณแลดูสดใส จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมสารไลโคพีนจึงได้รับการยกย่องจากเว็บไซต์สุขภาพในต่างประเทศให้เป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก
นอกจากนี้ ยังพบอีกว่าสารไลโคพีนยังมีคุณสมบัติในการช่วยลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งผิวหนัง รวมทั้งโรคมะเร็งชนิดอื่นๆ ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวเกิดจากประสิทธิภาพการทำงานของสารไลโคพีนที่ช่วยยับยั้งการทำลายของผนังเยื้อหุ้มเซลล์ สารไลโคพีนจะพบมากในผักผลไม้ที่มีสีแดงอย่างมะเขือเทศ ปริมาณมะเขือเทศที่แนะนำต่อวัน คือ 5-6 ลูก/วัน สำหรับใครที่สะดวกรับประทานไลโคพีนเป็นอาหารเสริม ควรรับประทานอย่างน้อยวันละ 20-30 มิลลิกรัม/วัน และเพื่อความปลอดภัยของร่างกาย เราไม่ควรรับประทานไลโคพีนเกิน 75 มิลลิกรัม/วัน เพราะหากเรารับประทานไลโคพีนมากเกินพอดี จะทำให้ร่างกายสะสมไลโคพีนไว้ที่ตับ ทำให้มีอาการตัวเหลือง คลื่นไส้ อาเจียน หรือวิงเวียนศีรษะบ่อย
สำหรับคนที่ไม่ชอบรับประทานมะเขือเทศแบบสด แต่ต้องการได้รับสารไลโคพีนอย่างเพียงพอ เพื่อช่วยบำรุงผิวพรรณ ชะลอความแก่ชรา คงความหนุ่มสาว และช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด หรือรับประทานไลโคพีน เพื่อช่วยลดอัตราเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งผิวหนัง เราก็ควรรับประทานให้เพียงพอต่อวัน ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป เพื่อให้ร่างกายได้รับสารไลโคพีนในปริมาณที่เหมาะสม ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อร่างกายนั่นเอง
Share this Article