ทานมะเขือเทศอย่างไรให้ได้ไลโคพีน (Lycopene) สูงสุด

                ในทุกวันนี้ สถาบันวิจัยและผู้เชี่ยวชาญทางด้านอาหารหลายๆท่านต่างพากันให้ความสนใจในประโยชน์และการรับประทานมะเขือเทศมากยิ่งขึ้น เนื่องด้วยคุณประโยชน์จากสารอาหารอย่างไลโคพีน (Lycopene) ที่จะช่วยรักษาสุขภาพร่างกายของเราให้แข็งแรง ห่างไกลจากมะเร็งและโรคร้าย ที่เราจะได้รับสารไลโคพีนสูงถึง 85% จากการทานมะเขือเทศ หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากมะเขือเทศ สำหรับผู้ที่กำลังสนใจในการรับประทานมะเขือเทศอยู่ เรามาดูกันดีกว่าว่า จะมีเทคนิคใดๆที่จะช่วยให้เราสามารถได้รับสารไลโคพีนอย่างสูงที่สุดและได้ประโยชน์อย่างเต็มประสิทธิภาพจากมะเขือเทศกันบ้าง

                จากทั้ง 2ปัจจัยที่กล่าวไปนั้น จึงสามารถสรุปออกมาได้ว่า ถ้าเราให้ความร้อน และไขมันแก่มะเขือเทศ เราก็จะสามารถได้รับไลโคพีนอย่างสูงสุดและเต็มประสิทธิภาพนั่นเอง ซึ่งจะค่อนข้างแตกต่างจากหลักการของผัก ผลไม้ชนิดอื่นๆที่เรามักจะคุ้นเคยกันดีว่า การกินสดนั้นจะเป็นวิธีการที่ทำให้เราได้รับสารอาหารได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นแล้ว ความเชื่อที่ว่าของสดดีกว่าของที่ปรุงแล้ว ไม่ได้เป็นจริงเสมอไป

                มะเขือเทศที่ผ่านการประกอบอาหารแล้วด้วยการเพิ่มไขมัน เช่น ซอสมะเขือเทศก็จะอุดมไปด้วยไลโคพีนที่พร้อมใช้งาน และอีกทั้งยังพบว่ามีปริมาณไลโคพีนที่สูงขึ้นมากอีกด้วย เนื่องจากมีการผ่านกระบวนการทำให้เข้มข้นขึ้น ดังนั้นไม่ว่าจะอาหารอิตาเลียน อย่างพิซซ่า สปาเก็ตตี้ ที่มีส่วนประกอบในการปรุงด้วยซอส หรือผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากมะเขือเทศ จึงเป็นแหล่งสารอาหารไลโคพีนชั้นดี

                แต่ก็ใช่ว่าการทานมะเขือเทศแบบสดจะไม่ดีเพราะในมะเขือเทศนั้นก็ยังมีอีกมากมายหลากหลายสารอาหารที่ดีต่อร่างกายเรา ไม่ว่าจะเป็น วิตามินบี1 บี2 วิตามินเค และวิตามินซีในปริมาณสูง ดังนั้นหากในกรณีที่เราต้องการวิตามินซีสูง มีใยอาหาร ทำให้ผิวพรรณดี ก็อาจจะเลือกรับประทานสดก็ได้ แต่ถ้าต้องการให้ร่างกายได้รับสารไลโคพีนมากๆ ก็รับประทานในรูปแบบที่ผ่านความร้อนมาแล้วได้เช่นกัน และนอกจากนี้ สำหรับคนที่มีภาวะกรดไหลย้อนก็ไม่ควรทานมะเขือเทศมากเกินไปด้วย เพราะมะเขือเทศนั้นจะมีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อนๆ อาจจะยิ่งทำให้อาการหนักขึ้นได้