article
ชาเขียว (Green Tea) ตัวช่วยสลายไขมันธรรมชาติ

 

 

ชาเขียว (Green Tea) ตัวช่วยสลายไขมันธรรมชาติ

                        สาวๆเคยได้ยินกันไหมว่า “ถ้าเราจะลดน้ำหนัก ให้เน้นที่ออกกำลังกาย 30% และ อาหารอีก 70%” ซึ่งก็ดูเหมือนว่า อาหารจะเป็นปัจจัยหลักๆที่จะทำให้คุณสาวๆลดน้ำหนักกันได้มากขึ้น  อย่างไรก็ดี การเลือกรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำอย่างเดียวก็ไม่ได้ทำให้สาวๆลดน้ำหนักได้ไวขึ้นเสมอไป เพราะยังมีอีกวิธีที่ง่ายกว่านั้น ซึ่งก็คือ การรับเลือกทานอาหารที่ช่วยให้เบิร์นไขมันได้มากกว่าเดิม อย่างเช่นการดื่มชาเขียวเป็นประจำ

 

                        เหมือนที่หลายๆคน ทราบกันดีว่า ชาเขียว ถือเป็นแหล่งรวมคุณค่าทางโภชนาการไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น  กรดอะมิโนที่ช่วยสร้างความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ วิตามินบีที่ช่วยบำรุงสมองและประสาท  วิตามินซีที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ  วิตามินอีที่ช่วยยับยั้งความเสื่อมของเซลล์  ตลอดจนสารอาหารในกลุ่มฟลาโวนอยด์( Flavoniods) อย่าง  Epigallocatechin Gallate ที่มีส่วนสำคัญในการออกฤทธิ์ต้านอนูมูลอิสระ และจะลดไขมันได้ เป็นต้น

 

                        โดยผลการศึกษาจาก  เมื่อปี 2009  ที่พบว่า Epigallocatechin Gallate (EGCG) ที่อยู่ในชาเขียว  ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยเพิ่มการเผาผลาญของพลังงานและไขมันในร่างกายได้ นอกจากนี้ การวิจัยทางวิชาการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ยังระบุอีกว่า การรับประทานชาเขียวควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย จะทำให้คุณลดน้ำหนักได้ไวขึ้น  โดยไขมันของคุณลดลงมากถึง 17 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับคนที่ออกกำลังกายอย่างเดียว

 

                        อีกทั้ง งานวิจัยจาก สหรัฐอเมริกา ที่ได้ทดลองให้กลุ่มตัวอย่าง รับประทานสารสกัดจากชาเขียววันละ 1,500 มิลลิกรัม เป็นระยะเวลา 3 เดือน แล้วผลปรากฏว่า กลุ่มผู้ทดลองมีน้ำหนักตัวลดลง 3.5 กิโลกรัม ซึ่งเกิดจาก สาร Epigallocatechin Gallate ในชาเขียวที่ไปยับยั้งเอนไซม์ไลเปสในกระเพาะอาหารและตับอ่อน จึงทำให้การย่อยไขมันลดลง ส่งผลให้ไขมันดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้น้อยลงและลดการสะสมของไขมันใหม่ได้นั้นเอง

 

                        แต่ถึงกระนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่า การดื่มชาเขียวในปริมาณมากๆจะทำให้ผอมลงไว เพราะว่าใน ชาเขียวมีส่วนผสมคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งถ้าหากได้รับมากเกินไปก็อาจจะส่งผลให้นอนไม่หลับได้เช่นกัน  อีกทั้งประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมันของชาเขียวยังขึ้นอยู่กับมวลร่างกายของแต่ละคนอีกด้วย ซึ่งปริมาณที่เหมาะสมในการดื่มควรจะเป็น 2-3 แก้วต่อวัน ถึงจะเพียงพอต่อร่างกายและไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพจนเกินไป

 

 

Share this Article

สินค้าแนะนำ