กว่าจะมาเป็นถั่งเฉ้า (Codyceps) ในแต่ละสายพันธุ์

กว่าจะมาเป็นถั่งเฉ้า (Codyceps) ในแต่ละสายพันธุ์
หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ ถั่งเฉ้า มาก่อน อาจเคยผ่านหูหรือเคยเห็นจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แต่อาจยังไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร และทำไมสมุนไพรชนิดนี้จึงได้รับความนิยมอย่างมาก วันนี้เราจะมาทำความรู้จักถั่งเฉ้า พร้อมดูว่ามีกี่สายพันธุ์ แต่ละชนิดมีที่มาแตกต่างกันอย่างไร
ถั่งเฉ้าเป็นเห็ดชนิดหนึ่ง แม้บางคนจะเรียกว่า หญ้าหนอน แต่จริง ๆ แล้วคือเห็ดถั่งเฉ้า (Cordyceps mushroom) ซึ่งเป็นเชื้อราปรสิตของแมลง (Entomofungus) จัดอยู่ในกลุ่ม Ascomycetes มีสายพันธุ์มากกว่า 750 ชนิดทั่วโลก และพบมากในทวีปเอเชียที่พบประมาณ 400 สายพันธุ์ โดยเฉพาะแถบเอเชียตะวันออก เช่น ทิเบต จีน เนปาล ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม รวมถึงไทย
ถั่งเฉ้ามีคุณสมบัติที่น่าสนใจ และถูกนำมาใช้ในงานด้านสุขภาพและการดูแลร่างกาย รวมถึงในบางผลิตภัณฑ์เวชสำอาง โดยสายพันธุ์ที่นิยมใช้มีทั้งหมด 4 ชนิด ได้แก่:
1. ถั่งเฉ้าธิเบต (Cordyceps sinensis)
หรือที่เรียกว่า หญ้าหนอนธิเบต พบในภูฏาน เนปาล และพื้นที่สูงของทิเบต เกิดจากสปอร์ของเชื้อรา Cordyceps sinensis ที่เจริญเติบโตในตัวอ่อนของผีเสื้อ เชื้อราจะแทรกเข้าไปและพัฒนาเป็นเส้นใยภายในตัวหนอน ต้องใช้เวลาการเติบโตอย่างน้อย 35 ปี พบได้ในบริเวณอากาศหนาวเย็น ดินชื้น และมีลมพัดแรงตลอดปี
2. ถั่งเฉ้าสีทอง (Cordyceps Militalis)
จัดอยู่ในตระกูลเดียวกับถั่งเฉ้าธิเบต แต่เป็นคนละสายพันธุ์ เนื่องจากถั่งเฉ้าธิเบตหาได้ยากและต้องรอฤดูกาล จึงมีการพัฒนาถั่งเฉ้าสีทองที่สามารถเพาะเลี้ยงได้ในห้องทดลอง ใช้ตัวหนอนหรืออาหารสังเคราะห์เป็นตัวเลี้ยง แม้ไม่ได้เกิดตามธรรมชาติ แต่สามารถควบคุมคุณภาพได้ตามมาตรฐานที่หลายประเทศนิยมใช้ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา
3. ถั่งเฉ้าหิมะ (Paecilomyces tenuipes หรือ Isaria japonica)
หรือที่รู้จักในชื่อ ถั่งเฉ้าเกาหลี สายพันธุ์นี้สัมพันธ์กับหนอนไหม เมื่อหนอนไหมลอกคราบ จะเป็นช่วงของการนำไปเพาะเลี้ยงต่อเพื่อให้เกิดเป็นถั่งเฉ้าที่ได้คุณภาพ ซึ่งต้องใช้แสงและความชื้นที่เหมาะสม จึงจะสามารถเกิดถั่งเฉ้าหิมะได้ ดังนั้นจึงต้องมีการพัฒนาและควบคุณภาพเป็นอย่างดี มีจุดเด่นคือผลผลิตมักปลอดสิ่งปนเปื้อนและควบคุมคุณภาพได้ง่าย และเมื่อได้ผลผลิตเป็นที่พอใจแล้วจะนำไปบดเป็นผง ถือเป็นถั่งเฉ้าที่ชาวเกาหลีให้ความนิยมมาก
4. ถั่งเฉ้าจักจั่น (P. scicadae หรือ I. sinclairii)
ชื่อเรียกสะท้อนที่มาของการเพาะพันธุ์ เพราะเกิดจากการเพาะพันธุ์ผ่านจักจั่น จึงมีชื่อว่า ว่านจักจั่น แต่บางถิ่นก็เรียกว่า ว่านเรไร ถั่งเฉ้าจักจั่นต้องเพาะเลี้ยงผ่านตัวอ่อนของจักจั่น แต่การเพาะเลี้ยงไม่ซับซ้อนเท่าถั่งเฉ้าหิมะ เพราะไม่จำเป็นต้องใช้ห้องเย็น เป็นอีกสายพันธุ์ที่พบได้บ่อยและได้รับความนิยมเช่นกัน
การเลือกถั่งเฉ้าควรพิจารณาว่าเป็นสายพันธุ์ใด มีที่มาอย่างไร และผ่านการผลิตที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะแต่ละสายพันธุ์ต่างมีสรรพคุณที่ดีกับร่างกาย และถูกนำมาใช้ประโยชน์ในด้านสุขภาพอย่างหลากหลาย


